บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2017

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องดนตรีธรรมชาติ

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องดนตรีธรรมชาติ นิทานล้านนาเรื่องดนตรีธรรมชาติ มีนายพรานผู้หนึ่งมีอาชีพเข้าป่าล่าสัตว์ เมื่องยิงสัตว์ได้ก็แล่เนื้อและย่างนำมาขายในเมืองส่วนเขาและหนังก็ขายให้ แก่ผู้ต้องการ วันหนึ่ง เขาออกจากบ้านพร้อมกับปีนคู่มือเดินลัดตรงเข้าป่ามุ่งตรงไปยังหนองน้ำข้างเขา เพราะบริเวณนี้สัตว์ป่ามักจะลงมากินน้ำและกินดินโป่งเสมอ ๆ นายพรานคิดแต่ในใจว่า วันนี้ถ้าโชคดีคงจะยิงหมูได้ไม่น้อยกว่า 2 ตัว เพราะฤดูนี้หมูชอบลงมากินดินโป่ง ขณะที่นายพรานกำลังเดินทางไปผ่านป่าทะลุออกสู่แม่น้ำสองฟาก แม่น้ำมีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้ม เยือกเย็น มีนกนานาชนิดจับคู่ส่งเสียงจอแจ… นายพรานกวาดสายตาดูรอบๆ เพื่อมองหาสัตว์ป่าที่จะลงมากินน้ำ ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นหมูป่าขนาดใหญ่กำลังเดินดุ่ม ๆ เสาะหาอาหารตามชายป่าละเมาะอีกอีกฟากหนึ่ง นายพรานก็ทรุดตัวลงนั่งโดยเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมบรรจุลูกกระสุนและเลือกทำเลที่เหมาะคอยดักยิง… หมูป่าตัวนั้นคงเดินเสาะหาอาหารไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันไปพบรางไม้สำหรับใส่อาหารซึ่งชาวไร่ใส่อาหารดักลาสัตว์ป่าไว้ โดยไม่รีรอมันตรงเข้ากินอาหารในรางนั้นทันที เผอิญวันนี้เจ้าของไร่ไม่สบาย จึงไม่ไ...

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ปู่ปันแน

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ปู่ปันแน นิทานล้านนาเรื่องปู่ปันแน เป็นนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ที่มีเนื้อหาสนุกเพลิดเพลินและขบขัน พร้อมทั้งให้แง่คิดและคติสอนใจในการใช้ชีวิตไว้อีกด้วย ในรัชสมัยที่นครพิงค์ยังมีเจ้าผู้ครองนครอยู่ทุกๆ สามปี… เจ้าผู้ครองนครจะต้องส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองไปเป็นบรรณาการทางกรุงเทพฯเป็นประจำ… กาลครั้งนั้นอำนาจในการปกครองดูแลบังคับปัญชาประชาชนพลเมืองเป็นของเจ้าผู้ครองนครแต่ผู้เดียว… จึงเรียกท่านว่าพ่อเจ้าชีวิต… เมื่อใครกระทำผิด เช่นลักพริก ลักมะเขือและผัก หากถูกจับได้จะถูกประหารชีวิตทันทีพ่อเจ้าท่านว่ามันเป็นคนเกียจคร้าน มีนิสัยเป็นผู้ร้ายจริง ๆ เขาปลูกเขาฝังทำไมไม่ปลูกฝังอย่างเขาบ้าง… กรณีลักช้าง ม้า วัว ควาย หากถูกจับได้ท่านให้ปล่อยมันไป เพราะมันอยากใคร่ได้อยากใคร่มี

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ใครโง่กว่าใคร

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ ใครโง่กว่าใคร นิทานล้านนาเรื่องใครโง่กว่าใคร อีกนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เนื้อหาสนุกเพลิดเพลินและขำขัน และให้แง่คิดในการใช้ชีวิตอีกด้วย… มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า หลายปีมาแล้ว มีชายผู้หนึ่งชื่อ” คง ”… ทิดคนนี้เคยบวชเป็นพระภิกษุหลายพรรษา… ต่อมาได้สึกและแต่งงานอยู่กินกับภรรยาจนมีบุตรคนหนึ่ง…ทิดคงและครอบครัวมีอาชีพในทางทำนา แกมีนาส่วนตัวอยู่แปลงหนึ่ง แกทำนาด้วยตนเองทุกๆ ปี นานี้อยู่ห่างจากบ้านของแกราว ๆ 4 – 5 กิโลเมตร… เวลาเช้าทิดคงจะออกไปไถนาพร้อมกับควาย ครั้นตอนสายและกลางวันลูกสาวจะเป็นผู้นำอาหารไปส่งให้เสมอ

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องผาเผียบ

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องผาเผียบ นิทานล้านนาเรื่องผาเผียบ เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ย่านกลางระหว่างภาคเหนือ เรือแพจะขึ้นลงจะต้องแวะเมื่อเวลาผ่านและจอดพักก่อนขึ้นและลงแก่งหน้าเมืองสร้อยเสมอ ดังนั้นนครแห่งนี้จึงเป็นเสมือนชุมทางค้าขายและเผยแพร่วัฒนธรรม รวมทั้งพระพุทธศาสนาพระสงฆ์ที่มาจากสุโขทัย จากนครศรีธรรมราช จากพม่า และจากลังกา จะขึ้นไปยังนครพิงค์ต้องผ่านเมืองนี้ทุกๆครั้ง เมื่อเมืองสร้อยเป็นชุมทางผ่านมีผู้คนมากมาย ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงแพร่หลายและเจริญในถิ่นนี้ จากการบอกเล่าของผู้รู้บางท่านกล่าวว่า ณ เมืองสร้อยมีวัดโบราณที่ร้างอยู่เกือบร้อยวัด

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องกบกินเดือน

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องกบกินเดือน นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ นิทานล้านนาเรื่องกบกินเดือน ในสมัยก่อนพระเจ้าเหา…มีครอบครัวหนึ่งได้ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมือง ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาวสองคน ในสมัยนั้นถ้าครอบครัวหไหนมีลูกสาวก็จะกได้รับการอบรมเรื่องภายในบ้านเกี่ยว กับการเป็นแม่บ้านที่ดี เช่น การจัดการบ้านการเรือน ความประพฤติ กิริยามารยาท ตลอดจนการทำอาหาร และในครอบครัวนี้ก็ได้อบรมในเรื่อง ต่าง ๆ ตามธรรมเนียมประเพณีต่อมาไม่นานทั้งสองคนก็สามารถที่จะทำได้อย่างชำนาญ

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องไอ้เซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องไอ้เซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องไอ้เซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา (ศรีธนญชัยรังแกพญา) วันหนึ่งเจ้าเมืองเดินทางไปตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ก็ได้ไปพบไอ้ศรีธนญชัย ไม่รู้จักว่าเป็นไอ้ศรีธนญชัย… ไอ้ศรีธนญชัยก็ทักเจ้าเมืองว่า ‘’ สาธุ ท่านเจ้าเมืองจะไปไหน ‘’ เจ้าเมืองตอบว่า ‘’ จะไปเที่ยว ‘’ ไอ้ศรีธนญชัยก็ว่า ‘’ เจ้าเมืองนี่ข้าหลอกได้แน่นอน ”… ‘’ เด็กน้อยอย่างเจ้านะหรือ จะมาหลอกเราได้  ‘’ เจ้าเมืองตอบ ‘’ จะหลอกข้าอย่างไรล่ะ ‘’ … ‘’ไ ม่ยากหรอก ถ้าจะหรอกละก็ ” ‘’ ก็ไหนลองหลอกกูดูทีซิ ” … ‘’ โอ งั้นหรือ งั้นก็ลงมานี่ก่อนซิ เจ้าเมืองลงมาเสียก่อนแล้วข้าจะหลอก ” ทันใดนั้นเจ้าเมืองก็ลงไป… ไอ้ศรีธนญชัยก็ว่า ‘’ นี่ไงล่ะ เจ้าเมืองก็ลงมาตามที่ข้าหลอก ” ตอนนี้ก็นับได้ว่าไอ้ศรีธนญชัยหลอกเจ้าเมืองได้

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องควายลุงคำ

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องควายลุงคำ นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องควายลุงคำ ลุงคำอยู่บ้านนอก ไม่เคยไปติดต่อธุระการงานกับทางอำเภอเลย ดังนั้นเรื่องราวหรือวิธีปฏิบัติที่ทางอำเภอได้กระทำไปอย่างไรแกจึงไม่เข้า ใจ แต่ แกเป็นคนที่สนใจ เอาใจใส่สอบถามเขาอยู่เสมอ

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องปุ๋ยลำไย

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องปุ๋ยลำไย นิทานล้านนา เรื่อง ปุ๋ยลำไย ลุงทาเป็นชาวสวน แกทำสวนลำไยกว้างขวาง ในฤดูลำไยออกดอกออกผล แกมีความสุขใจที่สุด ดังนั้นตลอดวันแกจะขลุกอยู่แต่ในสวนลำไยตลอดเวลา ลุงทาจะคอยเอาใจใส่ดายหญ้า พรวนดิน และใส่ปุ๋ยรดน้ำ

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องสองสัตว์

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องสองสัตว์ อยู่มาวันหนึ่ง นากออกไปหากิน มองเห็นช่องว่างคิดว่าเป็นทางน้ำจึงว่ายเข้าไป พอเข้าไปแล้วปรากฏว่าไปชนสายใยประตูกะต้ำ (เครื่องดักจับปลาชนิดหนึ่งที่ทำไว้ตามข้างตลิ่ง หันหน้าล่องใต้ พอปลาตัวโตเข้าไปเมื่อชนสายใย สลักจะหยุด ประตูจะเลื่อนตกลงมาปิดไว้ทันที ทำให้ปลาออกไม่ได้) …นากพยายามหาทางออก แต่ทำอย่างไรก็ออกไม่ได้ มันร้องขอให้กระต่ายช่วย …กระต่ายลงมาดูเห็นกะต้ำแน่นหนาเกินกว่ากำลังน้อยๆ ของตนจะรื้อหรือทำลายได้ ขณะนั้นพอดีนายพรานผู้วางกะต้ำ จึงตรงเข้าไปดูเห็นนากติดอยู่ก็ดีใจ …ส่วนกระต่ายเห็นคนเดินมาจึงหลบซ่อนตัวนิ่งอยู่ข้างๆ กอหญ้า …นากพอเห็นนายพรานเปิดประตูกะต้ำออก มันแกล้งทำเป็นตาย กลั้นลมหายใจ เบ่งท้องให้พองคล้ายกับตายมานานแล้ว …เมื่อกระต่ายแลเห็นนายพรานจับเพื่อนของตนขึ้นมาเช่นนั้น …กระต่ายจึงกระโดดออกมา และดิ้นรนกระเสือกกระสนคล้ายกับถูกตีหรือถูกยิง แล้วนอนนิ่งบนหาดทรายห่างจากกะต้ำไม่ไกลนัก … นายพรานมองเห็นกระต่ายมานอนดิ้นตาย ดีใจรีบขึ้นจากน้ำ …วางนากลงกับพื้น วิ่งตรงเข้าไปเพื่อจะจับกระต่ายอีกตัว …นากพอเป็นอิสระจึงกระโดดลงน้ำหนีไป …กระต่ายเห็นเพื...

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องขายปัญญา

รูปภาพ
นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องขายปัญญา วันหนึ่งในเวลาบ่าย แดดร้อนจัดจนเป็นเปลว มีชายคนหนึ่งนำเอาปัญญามาขาย โดยบรรจุตัวปัญญาลงในกระทอจนเต็มแล้ว หาบผ่านเปลวแดดมาจนถึงประตูเมือง ครั้นจะเข้าไปทันทีก็เกรงว่าอากาศร้อน ๆ เช่นนี้จะทำให้อารมณ์ของตนเสียไปได้… เขาจึงสอดส่ายสายตาดูร่มไม้ใหญ่บริเวณรอบๆ ในที่สุดก็มองเห็นร่มหว้าใหญ่ใบตก มีร่มแผ่กว้างน่าพัก เขาจึงแวะเข้าไปแล้ววางหาบตัวปัญญาที่นำมาขายลง แล้วเอนหลังหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน… จวบจนตะวันบ่ายคล้อยลง ความร้อนจึงค่อยบรรเทา ชายนั้นตื่นขึ้นแล้วไปล้างหน้าในสระน้ำใกล้กำแพงเมือง ตั้งใจว่าพอเสร็จธุระแล้วนำเอาตัวปัญญาเข้าไปเสนอขายในเมืองทันที